เรื่องเล่าที่เขาไม่รู้

เผื่อใครยังไม่รู้ โดย อ. ประพัคสรณ์

ผมนำ เรื่องเล่า ในเหตุการณ์ เมื่อ ปี 2516 ซึ่งคล้ายกับ เหตุการณ์ ที่กำลังเกิดขึ้น ใน ปี 2563 มาให้ท่าน ผู้อ่านได้รับทราบ หลังจากที่มีบางคนไปพูดพาดพิงถึงสถาบัน พระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพ ของชาวไทยทั้งหลาย เพื่อจะได้ หูตาสว่าง ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ ไทย มีความสำคัญ กับคนไทยมา โดยตลอด


เช้าหลังวันเกิดเหตุคือวันที่ 15 ตุลาคม 2516 ในหลวง ร.9 รับสั่งให้ 13 แกนนำนักศึกษาและอาจารย์เข้าเฝ้า บังเอิญผมก็ได้รับหมายเข้าเฝ้าด้วย ซึ่งในวันที่ 10 เมษายนนี้ผมก็จะอายุ 72 ปีเช่นเดียวกับคุณกัญชรัตน์ น้องร่วมชาติร่วมหัวอกเดียวกันผู้เผยแพร่บันทึกเหตุการณ์นี้

วันที่ 18 เมษานี้เราก็จะอายุ 53 เต็มพอดี
อยากจะบอกนาย ปิยะบุตร (ไม่รู้ลูกใคร) ว่าตั้งแต่รู้ความจวบจนอายุอานามเข้าเลขห้ามาเนี้ย เราไม่เคยรู้สึกถูกริดรอนสิทธ์จากสถาบันพระมหากษัตริย์เลยแม้แต่น้อย

มีแต่ความอบอุ่นปลอดภัยภายในพระบรมโพธิสมภารด้วยซ้ำไป ทุกข์สุขประชาราษฎร์ ทุกพระองค์ไม่เคยเกี่ยงงอนว่าเป็นหน้าที่ของใครจะต้องดูแล เห็นแต่น้ำพระเสโทไหลอาบพระพักตร์ปานน้ำ พสกนิกรอย่างเราได้แต่เหนื่อยแทน

อยากให้นายปิยะบุตรเป็นนักศึกษาที่ถูกเหล่าทหารภายใต้คำสั่งรัฐบาลทรราช(ของแท้) ที่สั่งยิงในวันหนึ่งของเดือนตุลา ปี 2516 จากกลุ่มนักศึกษาที่เดินขบวนจนต้องถอยร่นจากถนนราชดำเนินมาจนถึงหน้าพระตำหนักจิตรลดา

ในวันนั้น ทหารรักษาพระองค์ภายในวังตรึงกำลังขับไล่นักศึกษาให้ออกไป เพราะนักศึกษามากมายที่ยอมว่ายน้ำไปตายเอาดาบหน้าข้ามคูน้ำมาเกาะกำแพงรั้ววัง แต่ในทันใดนั้นได้มีคำสั่งจากบนตำหนักให้เปิดประตูวังที่ถนนใหญ่ให้นักศึกษาทั้งหมดเข้ามา

เมื่อประตูใหญ่เปิดบรรดานักศึกษาต่างก็หนีตายเข้ามาอย่างเสียขวัญ แต่บรรดาทหารที่ไล่ล่าต่างก็ชะงักงันไม่กล้าตามต่อเข้าไปในเขตพระราชฐาน ด้วยเกรงจะกระทบในเบื้องพระยุคลบาทองค์เจ้าของพระตำหนัก

สักอึดใจใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ เจ้าฟ้าชาย เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์​ ได้เสด็จลงมาดูแลบรรดานักศึกษาที่หนีตายเข้ามาพึ่งพระเมตตา ในภาพจะเห็นว่าทุกคนก้มหมอบกราบไปที่พื้นอย่างเต็มตื้นหัวใจหลายต่อหลายคนต้องหลั่งน้ำตาอาบแก้ม เหมือนลูกโดนรังแกแล้วมาฟ้องพ่อ

องค์พระประมุขได้สั่งให้คุณข้าหลวงและข้าราชสำนักดูแลนักศึกษาเป็นอย่างดีและทรงรับสั่งให้จัดรถในวังส่งกลับบ้านทุกคนอย่างปลอดภัย จวบจนเหตุการณ์ต่างๆ​ เริ่มคลี่คลายในเวลาต่อมา

อยากจะถามปิยะบุตรว่านี่นะหรือสถาบันที่คุณด่าทอ หากรู้ไม่จริงหรือเกิดไม่ทันก็อย่าจำขี้ปากคนอื่นเค้ามาด่าทอจุดศูนย์รวมหัวใจของคนไทยเลย จะโดนปากคนกินหมากกินพลูสาปแช่งเปล่าๆ
คิดไปอีกทีก็เสียดายความรู้ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา ช่างไม่เกิดประโยชน์แต่อันใดเลย​ ตายไปก็สูญเปล่า!

ใครเกิดไม่ทันได้เห็นภาพนี้ก็ช่วยแชร์ให้เพื่อนร่วมวัยให้รับรู้กันนะครับ

แผนที่ดอยเต่า

ภาพดอยเต่าในอดีต