ทำอย่างไรให้รอดจากไวรัสโควิด-19

ศาสตราจารย์ Michele Assaf (มิแซล อาแซฟ) ภาควิชาโรคระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ สหรัฐอเมริกาให้ข้อมูลในการสู้กับไวรัสโควิด – 19

ดร. มิแซล อาแซฟ บอกว่า ไวรัสไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแต่เป็นโมเลกุลโปรตีน(DNA)หุ้มด้วยไลปิด(ไขมัน)ซึ่งเมื่อถูกเซลของตา หรือจมูกหรือสารคัดหลั่งในช่องปากก็จะกลายพันธ์ุให้รุนแรงขึ้นและแพร่ขยายเซล

เนื่องจากไวรัสไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแต่เป็นโมเลกุลโปรตีน เราจึงฆ่ามันไม่ได้ แต่มันจะเสื่อมถอยหรือสลายไปเองขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ความชื้นและชนิดของพื้นผิวที่ไวรัสไปเกาะ

  • ไวรัสนี้บอบบางมากเพราะถูกห่อหุ้มด้วยไขมันบางๆ ดังนั้นการล้างด้วยสบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดจึงเป็นวิธีแก้ที่ดีที่สุด เพราะฟองสบู่จะกัดไขมัน(เป็นเหตุผลทำไมต้องฟอกถูสบู่บนมือ 20 วินาทีหรือนานกว่าเพื่อให้เกิดฟองมากๆ) โดยการทำลายชั้นไขมันที่ห่อหุ้มอยู่ โมเลกุลโปรตีนจะแตกกระจายสลายไปด้วยตัวเอง ความร้อนละลายไขมัน จึงเป็นเหตุผลที่ดีจะใช้น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 25 องศาเซลเซียสล้างมือ เสื้อผ้าและสิ่งต่าง ๆ แอลกอฮอล์หรือน้ำยาที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์มากกว่า 65% จะสามารถล้างไขมันทุกชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งไลปิดที่ห่อหุ้มไวรัสอยู่ น้ำยาที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาว 1 ส่วนกับน้ำสะอาด 5 ส่วนจะละลายโปรตีนไวรัส ย่อยสลายมันจากภายในเลย น้ำออกซิเจน แอลกอฮอล์ และคลอรีนมีเพอร์รอคไซด์จะสลายไวรัสได้ แต่จะต้องใช้แบบเพียวๆ ซึ่งจะทำให้ระคายเคืองผิว น้ำยาฆ่าแบคทีเรียไม่ช่วย เพราะไวรัสตัวนี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ไม่เหมือนกับแบคทีเรีย เราจึงไม่สามารถใช้แอนตี้ไบโอติกทำลายไวรัส แต่โครงสร้างของมันจะถูกทำลายโดยสิ่งที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

  • อย่าสะบัดเสื้อผ้าเด็ดขาด ไม่ว่าที่ใช้แล้วหรือยังไม่ใช้ ผ้าปู เพราะในขณะที่ไวรัสเกาะติดผืนผ้า ไวัรัสตัวนี้มันเฉื่อยมาก และจะสลายไปในเวลา 3 ชั่วโมง(กรณีเส้นใยที่มีรูพรุน) 4 ชั่วโมง(บนผิวทองแดง เพราะมันเป็นแอนตี้เซพติกโดยธรรมชาติ; และบนผิวไม้ เพราะมันคายความชื้นออกไปหมดและไม่ยอมให้เปลือกที่หุ้มอยู่ลอกออกมันจึงไม่ย่อยสลาย) 24 ชั่วโมง (บนกระดาษแข็ง) 42 ชั่วโมง(บนผิวโลหะ) และ 72 ชั่วโมง(บนผิวแผ่นพลาสติก) แต่ถ้าเราสะบัดหรือใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่น ไวรัสตัวนี้จะฟุ้งและลอยอยู่ในอากาศถึง 3 ชั่วโมงและเข้าจมูกเราได้

  • โมเลกุลของเจ้าไวรัสตัวนี้สามารถอยู่ได้สบายในอากาศเย็นนอกบ้าน หรือในบ้านและในรถที่มีเครื่องปรับอากาศ มันอยู่ได้ในที่ๆมีความชื้นและความมืด ดังนั้น สภาพที่ไม่มีความชื้น แห้ง อุ่นและสว่างจ้า จะทำให้ไวรัสนี้ย่อยสลายได้เร็วขึ้น แสง UV จะทำลายไวรัสโปรตีน ดังนั้น จึงสามารถนำหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ำได้ แต่ต้องฆ่าเชื้อตากแดดเสียก่อน. ต้องระมัดระวังว่าแสง UV จะทำลายคอลลาเจน(ซึ่งเป็นโปรตีนเช่นกัน)บนผิวหนังของเรา และอาจเป็นสาเหตุให้ผิวเหี่ยวย่นและมะเร็งผิวหนัง

  • ไวรัสไม่สามารถทะลุเข้าผิวหนังที่ไม่มีบาดแผล น้ำส้มสายชูไม่มีปะโยชน์เพราะไม่สามารถทำลายผิวไขมันที่ห่อหุ้มไวรัส เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือว๊อดก้าไม่ช่วย เพราะว๊อดก้าที่แรงที่สุด มีแอลกอฮอล์แค่40% คุณต้องการแอลกอฮอล์อย่างต่ำ65% น้ำยาบ้วนปากLISTERINEอาจช่วยได้เพราะมีส่วนผสมแอลกอฮอล์65%

  • สถานที่ยิ่งคับแคบไวรัสยิ่งเข้มข้น สถานที่ยิ่งโล่งไวรัสยิ่งน้อย สิ่งที่สำคัสุดคือ ต้องล้างมือก่อนและหลังทำสิ่งต่อไปนี้ สัมผัสสารคัดหลั่งในปากจมูก อาหาร กุญแจ ลูกบิดประตู รีโมทคอนโทรล โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา คอมพิวเตอร์ โต๊ะ ทีวี หรือสิ่งของต่างๆ และการใช้ห้องน้ำ
  • ต้องทำให้มือชุ่มชื้นหลังมือแห้งจากการล้างมือบ่อยๆ เพราะมือจะแห้งแตกหลังการล้างบ่อย โมเลกุลของไวรัสจึงอาจจะติดอยู่ตามรอยแตกของมือ ครีมมอยซ์เจอไรซ์เซอร์เนื้อครีมยิ่งเข้มข้นยิ่งดี *ควรตัดเล็บให้สั้นด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสไปแฝงตัวอยู่

ขอบคุณ ดร.บรรจง ชมภูวงศ์ ผู้ถอดความ


แผนที่ดอยเต่า

ภาพดอยเต่าในอดีต